ประเพณี พิธีกรรมตามความเชื่อของชุมชนชาติพันธุ์อาข่าบ้านแสนสุข

ชุมชนชาติพันธุ์อาข่าบ้านแสนสุข ตำบลศรีค้ำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย

ประเพณี พิธีกรรม สำหรับสื่อพื้นบ้านที่มีความสำคัญในวิถีชีวิตของอาข่าบ้านแสนสุขมาจากการประกอบประเพณีพิธีกรรมต่างๆตามความเชื่อที่ตนเองนับถือและถ่ายทอดกระบวนการต่างๆเพื่อสืบทอดให้กับคนรุ่นต่อๆมา พิธีกรรมที่สำคัญ เช่น พิธีกรรมเรียกขวัญ “ลา คู คู – เออ” มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่ามีชาวอาข่าคนหนึ่งได้เข้าไปในป่าเพื่อไปหาของป่ามาบริโภค ได้ไปพบเห็นลักษณะเงาลางๆเหมือนคนเกิดอาการสะดุ้งเพราะนึกว่าผีหลอก เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้าน ก็เกิดอาการปวดหัว ตัวร้อน จึงให้หมอผีทำนาย และพบว่าเกิดจากขวัญอ่อน วิญญาณชั่วร้ายมาหลอกหลอน ต้องประกอบพิธีกรรม ลา คู คู เออ เพื่อเป็นการเรียกขวัญคืนมา อาข่าคนที่ไปหาของป่าจึงได้ทำพิธีกรรมตามหมอผีบอกเมื่อทำพิธีกรรมเสร็จปรากฏว่าอาการต่างๆ ได้หายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ตั้งแต่นั้นมาจึงเกิดพิธีกรรมนี้มาและสืบทอดมาถึงปัจจุบัน การประกอบพิธีกรรมนี้มีการเลือกเวลาฤกษ์ยามในการทำพิธีต้องไม่ตรงกับวันเกิดและวันตายของสมาชิกในครอบครัว จึงนับว่าเป็นวันดี แต่ถ้าเป็นวันเกิดของผู้ที่ประสบเหตุสะดุ้งนั้นได้ และถือว่าเป็นฤกษ์ยามที่ดีมาก สามารถทำได้ 3 รูปแบบ ดังนี้
1.การเรียกขวัญโดยใช้ไข่ไก่ “ลา คู คู – เออ ลา แย่ มา เด๊า” เป็นพิธีกรรมโดยการไปเชิญผู้อาวุโสในชุมชนคนใดคนหนึ่ง ซึ่งสามารถเรียกได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มาบ้านผู้ประสบเหตุไม่สบาย เมื่อไปถึงก็ต้มไข่กับข้าวสาร พอไข่สุกก็ไปหาจานอาข่า ที่อ่าข่าเรียกว่า ห่อ เวาะ มา 1 ใบ เอาใบตองวางบนจาน และมีเชือก 2-3 เส้นไว้มัดมือ หาสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ไม่สบายอย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนมากนิยมใช้หมวกหรือเสื้อ มาวางบนจาน เอาไข่และข้าวต้มใส่จาน หาไม้ขนข้าว ที่อ่าข่าเรียก ห่อ แช่ ดา ลา มาใส่จาน ให้ผู้ไม่สบายมายืนที่ประตูบ้าน แต่ให้ยืนอยู่ข้างในบ้าน ผู้อาวุโสอยู่ประตูนอกบ้าน ให้ผู้ไม่สบายกวักมือจานจำนวน 3 ครั้ง พร้อมกับกล่าวว่าขอให้ขวัญของข้าพเจ้ากลับมา ผู้อาวุโสก็ยกจานไปที่ประตูหมู่บ้าน เมื่อไปถึงยกจานลง ใช้ “ห่อ แช่ ดา ลา” ตีไข่ให้แตก แกะเปลือกไข่และข้าวต้มซ่อนใต้ใบตอง จำนวน 3 ครั้ง ผู้อาวุโสจึงเดินทางกลับบ้านผู้ไม่สบาย ผู้ไม่สบายได้ยินเสียงผู้อาวุโสเดินกลับมาก็กินข้าวเปล่า 2-3 คำ ผู้อาวุโสเดินทางถึงประตูบ้าน ผู้ที่อยู่กับผู้ไม่สบายก็กล่าว ขวัญกลับมาตั้งนานแล้ว กินข้าวอิ่มแล้วด้วย กลับถึงบ้านมานั่งใกล้ๆ เตาไฟจำลอง ให้ผู้อาวุโสเอาเชือกมัดมือ ถ้าเป็นผู้ชายต้องมัดทางมือข้างขวา ผู้หญิงมัดซ้าย ตามด้วยทุกคนในครอบครัว คืนสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ไม่สบายที่เอาไปให้แกะไข่ทั้งลูกให้ผู้ไม่สบายกินเป็นอันเสร็จพิธีกรรม
2.การเรียกขวัญโดย ใช้ไก่ “ยา จี ลา คู คู – เออ” เป็นพิธีกรรมโดยการไปเชิญผู้อาวุโสในชุมชนคนใดคนหนึ่ง ซึ่งสามารถเรียกได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมาบ้านผู้ไม่สบาย เมื่อไปถึงบ้านก็ต้มไข่กับข้าวสารให้สุก นำจานห่อ เวาะ รองด้วยในตองมาวาง ใส่ไข่กับข้าวต้ม สิ่งของเครื่องใช้อย่างใดอย่างหนึ่งของผู้ไม่สบาย เชือก และไม้ขนข้าว มาใส่จานอาข่า ไปจับไก่ตัวผู้หรือตัวเมียก็ได้ (ใช้ไก่ตัวผู้หรือตัวเมีย ขึ้นอยู่กับการทำนายของซามา) แต่ต้องไม่มีขนสีขาวและมีอวัยวะครบ จำนวน 1 ตัว ให้ผู้ที่ไม่สบายไปยืนที่ประตูบ้านข้างใน ให้ผู้อาวุโสอยู่ข้างนอก ผู้ไม่สบายกวักมือในจานแล้วบอกว่าให้ขวัญกลับมา แล้วลูบไก่จากขาขึ้นถึงหัวโดยใช้มือข้างขวา การที่ต้องใช้มือข้างขวาเพราะมือข้างขวาเป็นมือข้างที่ถนัดในการกระทำต่างๆ ผู้อาวุโสเดินทางไปที่ประตูหมู่บ้าน ยกจานลง ใช้ไม้ขนข้าวตีไข่ให้แตก เอาไข่กับข้าวต้มวางซ่อนในใบตอง จำนวน 3 ครั้ง ตามด้วยถอนขนไก่จากน่อง ต้นปีกและหัวที่ละจำนวน 3 ครั้ง ให้วางซ่อนไว้ในใบตอง จึงยกจานกลับมาบ้าน ผู้ไม่สบายได้ยินเสียงผู้อาวุโสก็กินข้าว 2-3 คำ เมื่อเดินทางถึงหน้าประตูบ้าน ผู้ที่อยู่กับผู้ไม่สบายต้องกล่าวว่าเห็นขวัญกลับมาตั้งนานแล้ว และกินข้าวอิ่มแล้วด้วย กลับมาถึงบ้านคืนของใช้ของผู้ไม่สบาย มัดมือให้ผู้ไม่สบายตามด้วยสมาชิกในครอบครัวทุกคน แกะไข่ให้ผู้ไม่สบายกินทั้งลูก เอาถ้วยมาตั้งไว้ 1 ใบ ข้างในมีขันน้ำที่ทำมาจากน้ำเต้า เทน้ำใสถ้วยให้เต็ม เอาขันน้ำตักน้ำจากถ้วยมาเทใส่ขา ต้นปีก และหัว ที่ละจำนวน 3 ครั้ง ใช้ไม้ตี่ตูตีใส่หัว เอาไก่ไปเผาถอนขนให้หมด มาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกทีหนึ่ง ตัดน่อง ต้นปีก ตับ เป็นชิ้นโตๆ และเนื้อส่วนหน้าอกอีกจำนวนหนึ่ง เอาเนื้อไก่ทั้งน่อง ต้นปีก และตับใส่ถ้วยเก็บไว้ เอาขันโตกมาตั้งห่อด้วยใบตอง ช่วงนี้ให้ผูกข้อมืออีกครั้งสำหรับที่ไม่ได้ผูกข้อมือในรอบแรก เอาข้าวบริสุทธิ์ ชาบริสุทธิ์ (หมายถึงต้มชาเสร็จยังไม่มีใครรินดื่ม) ยกขึ้นบนขันโตกให้ผู้ไม่สบายชิมทุกถ้วยที่อยู่บนขันโตก การชิมต้องใช้ตะเกียบแทนการใช้อย่างอื่น 3.การเรียกขวัญโดยใช้หมู ” อ่าหยะ ลา คู คู – เออ” เป็นพิธีกรรมโดยไปเรียกผู้อาวุโสในชุมชนคนใดคนหนึ่ง ส่วนมากการใช้หมูประกอบพิธีนี้ จะไปเรียก อ่าบ้อพี้มา มาประกอบพิธีให้เนื่องจากว่าสามารถสวดบทต่างๆ ได้มาก มาถึงบ้านก็ต้มไข่ 1 ฟอง กับข้าวสารให้สุก หาลูกเหล้ามาตั้ง ข้างในลูกเหล้ามีหลอดดูด หาถ้วยมา 1 ใบ ข้างในถ้วยมีขันน้ำที่ทำมาจากน้ำเต้า เทน้ำใส่ถ้วย เอาขันน้ำตักน้ำจากถ้วยเทใส่ลูกเหล้าอีกที เอากระด้งลงมา เอาถ้วยตั้งข้างในจำนวน 5 ใบ ใบที่ 1 ใส่ชาผสมขิง 2 ใส่เกลือ 3 ใส่เหล้า 4 ใส่น้ำบริสุทธิ์ 5 ข้าวบริสุทธิ์กับไข่ใช้ข้าวสารประมาณ 1 กำมือมาใส่ข้างในตรงกลางกระด้ง เชือก 5-6 เส้น ไม้ขนข้าวและตราชั่งขนาดเล็ก เงิน 2-3 บาท ใส่กระด้ง มีความเชื่อเกี่ยวกับการใส่ตราชั่งนี้ว่าให้ใช้ตราชั่งชั่งขวัญคืน เงินซื้อขวัญคืน อาข่าเรียกการตั้งกระด้งครั้งนี้ว่า ยา มา ซา – เออ แช ล้อง มีการใช้หมู 1 ตัว ใช้ได้ทั้งตัวผู้และตัวเมีย (ขึ้นอยู่กับการทำนายของซามา) ให้ยกหมูและกระด้งมาที่ประตูบ้าน ให้ผู้ไม่สบายยืนอยู่ประตูบ้านข้างใน ผู้ประกอบพิธีกรรมยืนอยู่ประตูบ้านนอก ผู้ไม่สบายใช้มือกวักที่กระด้ง เอามือลูบหมูที่ใดก็ได้ จำนวน 3 ครั้ง ยกกระด้งและหมูไปที่ประตูหมูบ้าน ถึงประตูหมูบ้านยกหมูและกระด้งลง ใช้ไม้ขนข้าวตีไข่ให้แตก หยิบข้าวบริสุทธิ์และไข่วางข้างล่างใบตองในกระด้ง จำนวน 3 ครั้ง ตามด้วยถ้วยที่อยู่ในกระด้งทุกใบ ถอนขนหมูจากขา ลำตัวและหัว ที่ละจำนวน 3 ครั้ง จึงยกกระด้งและหมูกลับบ้าน เมื่อผู้ไม่สบายได้ยินเสียงก็ให้กินข้าว 2-3 คำกับเกลือ พอกลับเข้ามาถึงบ้าน คนในบ้านคนใดคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ ผู้ไม่สบาย กล่าวว่า “ขวัญได้กลับมาตั้งนานแล้ว”วางกระด้งและหมูลงที่เตาไฟจำลองตรงกลางบ้าน เอาขันตักน้ำจากถ้วยเทใส่ขา ลำตัว และหัวหมูที่ละ 3 ครั้ง เขียงหงายข้างจากที่ใช้ประจำ ยกหมูวางบนเขียง ให้ผู้นำประกอบพิธีกรรมฆ่าหมูโดยใช้มีดแทงคอ พร้อมกับหากะละมังใส่เกลือรองเลือด ผ่าท้องหมูล้วงแล้วตับออกมา เพื่อดูดวงวาสนาของครอบครัวของผู้ไม่สบาย หนุ่มๆ ที่ไปช่วยงานก็เอาหมูไปเผา ส่วนผู้อาวุโสก็แกะไข่ให้ผู้ไม่สบายกินข้าวพร้อมกับมัดมือให้ เอาซี่โครงหมูข้างใดข้างหนึ่ง จำนวน 2 ซี่ กับตับไปต้มเป็นชิ้นโตๆ โดยใส่เกลือ ข้าวสาร และขิงลงไปด้วย อ่าข่าเรียกการต้มนี้ว่า ฮึ่ม หม่า ลา ดา ระหว่างที่ต้มตับกับซี่โครงยังไม่สุกก็เอาเนื้อหมูมาทำกับข้าวเลี้ยงญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านที่มาร่วมพิธี