ประเพณีปีใหม่ลีซู (กินวอ)

ชุมชนชาติพันธุ์ลีซูบ้านน้ำริน ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน

กิจกรรมสำคัญในงานปีใหม่ลีซูได้แก่การตั้งเครื่องเซ่นบรรพชน การดำหัวผู้นำและการร่วมเฉลิมฉลองปีใหม่ ลีซูด้วยการเต้นกว่าเซี๊ยะ

ประเพณีปีใหม่ลีซู (กินวอ) จัดขึ้นในวันที่ 1 เดือน 1 ของเดือนลีซู ซึ่งลีซูเรียกเดือนนี้ว่า “โข่เซยี่ยอาบา” เป็นวันที่มีความสำคัญมากสำหรับชาวลีซู เพราะเชื่อว่าเป็นวันที่เริ่มต้นสำหรับชีวิต และสิ่งใหม่ ให้สิ่งเก่าๆ ที่ไม่ดีหมดไปพร้อมกับปีเก่า จึงต้องมีการเฉลิมฉลองด้วยการทำพิธีกรรมและจัดงานรื่นเริง เช่น การทำบุญศาลเจ้า และเทพเจ้าต่างๆ ของชาวลีซู การขอศีลพรจากเทพเจ้าและผู้อาวุโส การร้องเพลง การเล่นดนตรี และการเต้นรำ เป็นต้น ก่อนวันปีใหม่ 1 วัน หรือวันสุดท้ายของเดือน “หลายี” หรือเดือน 12 จะมีการตำข้าวปุ๊กหรือเรียกว่า “ป่าปาเตี๊ยะ”สำหรับกิจกรรมและพิธีกรรมต่างๆ ที่ทำในวันนี้คือนึ่งข้าวเหนียว เพื่อตำข้าวปุ๊กในตอนเช้า เมื่อข้าวสุกแล้วก็นำข้าวเหนียวไปตำใน “ลูทูว” จนนุ่ม และโรยแป้งหรืองาเพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวติดมือและปั้นเป็นก้อนพอประมาณ ใส่ลงไปในใบตองที่เตรียมไว้ โดยทบไปตองไปมา หน้าละ 2 ก้อน จนกระทั่งใบตองหมดแผ่น จึงทำแผ่นใหม่เรื่อยๆ จนหมด
ก่อนวัน “ป่าปาเตี๊ยะ” 1 วัน ในตอนเย็นนั้น “มือหมือ” จะต้องเป็นคนแช่ข้าวเหนียวก่อน และจุดประทัดเป็นสัญญาณบอกจากนั้นชาวบ้านอื่นๆ จึงจะแช่ข้าวเหนียวได้ ช่วงเย็นจะมีการร่วมกันเตรียมต้นไม้ “โข่เซยี่ยและจึว” ซึ่งจะเลือกเอาจากต้นไม้ที่มีลักษณะงาม ลำต้นเรียวยาว สูงประมาณ 1.5 เมตร โดยนำต้นไม้มาปักกลางลานบริเวณบ้าน จากนั้นนำ “ป่าปา” และเนื้อหมูหั่นยาวประมาณ 6-7 นิ้ว “ซาซือ” แขวนที่เสา และจุดธูป 2 ดอก และมีการเตรียมไข่ต้ม และเส้นด้ายยาวขนาดที่จะมัดที่คอหรือข้อมือได้ เท่ากับจำนวนสมาชิกในบ้าน ผู้อาวุโสในบ้านที่เป็นผู้ชายเป็นผู้ทำพิธีเรียกขวัญ “โชวฮาคูว” โดยการเอาไข่ต้มทั้งหมด และเส้นด้ายที่จะใช้มัดวางขนถ้วยที่ใส่ข้าวสุกที่วางบนผ้าอีกชั้นหนึ่ง ไปยืนเรียกขวัญที่หน้าประตูบ้านเมื่อทำพิธีเสร็จ จึงทำการผูกด้ายสายสิญจน์ และให้ไข่ต้มแก่สมาชิกคนละใบ เพื่อให้ขวัญที่อาจหลุดลอยไปจากร่างกายของเจ้าของได้กลับเข้าร่างของตน
สำหรับการตั้ง “โข่เซยี่ยและจึว” นั้น เพื่อเป็นการอันเชิญให้เทพผู้หญิงลงมาประทับ ซึ่งจะให้ศีลและพรแก่เจ้าของบ้าน และจะลงมาเยี่ยมเยียนปีละครั้งในตอนเช้าของวัน “อาพูวที่งี” (วันแรกของวันปีใหม่) ดังนั้นจึงต้องทำความสะอาดบ้าน ก่อนที่เทพองค์นี้จะลงมา เชื่อว่าหากบ้านไหนสกปรกจะไม่ให้พร นอกจากนี้ยังใช้สำหรับเป็นจุดศูนย์กลางในการเต้นรำรอบๆ ต้นอีกด้วย เพื่อเฉลิมฉลองปีใหม่ และขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกจากบริเวณบ้านเมื่อตั้ง “โข่เซยี่ยและจึว” แล้วก็เตรียมทำเทียนโดยเอาก้อนขี้ผึ้งไปรนไฟให้อ่อน แล้วปั้นเป็นก้อน และไปรูดกับด้ายที่ขึงเตรียมไว้จนหมดด้าย แล้วนำมาตัดเป็นท่อนๆ ยาวพอประมาณสำหรับใช้ทำพิธีบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และวิญญาณบรรพบุรุษ กลางคืนจะมีการเต้นรำรอบๆ “โข่เซยี่ยและจึว” ของทุกๆ บ้านตลอดคืน โดยจะมีการเวียนจนครบทุกบ้าน เพื่อเป็นการขับไล่สิ่งเลวร้ายไปให้หมดพร้อมกับปีเก่าและต้อนรับสำหรับปีใหม่ ซึ่งชาวลีซูเรียกว่า “โข่เบ่จั๊วะ”
ปีใหม่จะมีการนำเอาเครื่องดนตรีที่ใช้ประกอบการเต้นรำ ได้แก่ ซึง “ชือบือ” แคนน้ำเต้า “ฟู่วหลูว” มีหลายประเภท มีทั้งแคนสั้น และแคนยาว และขลุ่ย “จู่วหลู่ว” เป็นต้น “อาพูวที่งี” คือ วันแรกสำหรับของการปีใหม่ ในวันนี้ทุกบ้านจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอุปกรณ์สำหรับทำพิธีเซ่นไหว้วิญญาณบรรพบุรุษ และเทพ “อาปาโหม่ว” เช่น ปิ้ง “ป่าปา” ต้ม “ซาซือ” เป็นต้น รวมทั้งการตักน้ำ ในเช้านี้เชื่อว่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ และเงินทองที่ไหลมาตามน้ำ นอกจากนี้จะไม่นำเศษขยะที่กวาดทิ้งภายในบ้านไปทิ้งนอกบ้านเด็ดขาด จนกว่าพิธีปีใหม่จะเสร็จสิ้น จะนำเศษขยะไปเก็บไว้ในถังขยะภายในบ้านก่อน เมื่อเตรียมอุปกรณ์เสร็จแล้ว ก็เดินทางไปศาลเจ้าประจำหมู่บ้าน “อาปาโหม่วฮี” โดยทุกบ้านต้องส่งตัวแทนไปร่วม 1 คน ซึ่งต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น อุปกรณ์ที่นำไป ได้แก่ ป่าปา 1 คู่ เหล้า 1 ขวด และซาซือ 1 อัน เพื่อนำไปขอศีลพรจากเทพ “อาปาโหม่ว” ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ปกป้องดูแลคนภายในหมู่บ้าน โดยมี “มือ หมือ” เป็นผู้นำพิธี เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็กลับมาพร้อมกับพรต่างๆ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ก็รอที่บ้าน เมื่อได้ยินเสียงประทัดดัง ซึ่งเป็นสัญญาณบอกว่าพิธีขอพรจากเทพ “อาปาโหม่ว” เสร็จสิ้นลงแล้ว จะมีการเรียกหมู เรียกไก่ หรืออื่นๆ ตามแต่ที่แต่ละคนอยากได้เพราะ เชื่อกันว่าเช้านี้ “อาปาโหม่ว” จะให้พรแก่ทุกคนตามต้องการ จากนั้นจึงจัดเตรียมของเซ่นไหว้บรรพบุรุษในบ้าน และเซ่นไหว้ และในเช้ามืดวันนี้ห้ามผู้หญิงออกนอกบ้าน จนกว่าพระอาทิตย์จะขึ้น หากเข้าไปบ้านของผู้อื่นจะโดนราดด้วยน้ำสกปรก เพราะเชื่อว่าจะนำความชั่วร้ายมาสู่คนในครอบครัวนั้น จึงต้องขับไล่ออกไป ส่วนผู้ชายสามารถไปบ้านของคนอื่นได้ โดยที่ผู้ชายคนแรกที่เข้าบ้านเรียกว่า “ฉะหมื่อ” คนในครอบครัวนั้นจะให้ของต่างๆ เช่น ขนม เงิน หรือของใช้ต่างๆ ตามแต่เจ้าของบ้านจะให้ เพราะเชื่อว่าเขาจะนำความโชคดีมาให้ และในวันนี้เป็นวันศีลจะไม่มีการฆ่าสัตว์ใดๆ พอสายก็เตรียมอุปกรณ์เพื่อไปร่วมพิธีดำหัว “มือหมือ” ซึ่งเรียกว่า “มือหมือไป๊” อุปกรณ์ที่เตรียมไป ได้แก่ ป่าปา ซาซือ ดอกไม้ ธูปเทียน และเหล้า สำหรับพิธีกรรมนี้เป็นการแสดงความขอบคุณ “มือหมือ” ซึ่งเป็นผู้นำพิธีกรรมต่างๆ ตลอดปีที่ผ่านมา และขอศีลพรจาก “มือหมือ” อีกด้วย จากนั้นจะมีการเต้นรำ ร้องเพลง โดยหนุ่มสาวจะแต่งกายด้วยชุดชนเผ่า และสวมเครื่องประทับอย่างสวยงามมาเต้นรำอย่างสนุกสนาน ผู้ใหญ่ก็จะร้องเพลง พูดคุยกัน จนกระทั่งดึก ก็จะมีการเต้นรำเวียนรอบบ้านทุกบ้าน ซึ่งเรียกว่า “โข่เซยี่ยจั๊วะ” เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง และต้อนรับปีใหม่ ตลอดจนเพื่อให้พร และสิริมงคลแก่เจ้าของบ้านต่างๆ โดยเจ้าบ้านจะคอยต้อนรับด้วยการนำขนม น้ำชา และเหล้ามาเลี้ยงขอบคุณ “อาพูวงี่ง” คือวันที่สองสำหรับงานปีใหม่ ในวันนี้ชาวบ้านจะมาทำพิธีดำหัวผู้นำชุมชน “ฆั่วทูวไป๊” เพื่อขอบคุณผู้นำชุมชนที่ดูแลและปกครองคนในชุมชนให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดปี ซึ่งพิธีกรรมและกิจกรรมเหมือนการดำหัว “มือหมือ” แต่จะไม่มีการ “โข่เซยี่ยจั๊วะ” จะร่วมกิจกรรม และเต้นรำตลอดวัน และตลอดคืนที่นี่อาพูวส่างี คือวันที่สามสำหรับงานปีใหม่ ในวันนี้ช่วงเช้าจะไปยังบริเวณศาลเจ้า “อิ๊ด่ามอ” หรือ “มึ๊ว กวูกัว” เพื่อขอศีลขอพรจากเทพ “อิ๊ด่ามอ” ซึ่งเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่ปกป้องดูแลไม่ให้เกิดสิ่งชั่วร้ายสำหรับคน แม้แต่จะอยู่นอกเขตหมู่บ้านก็ตาม จะปกป้องทั่วทุกทิศ สำหรับเครื่องเซ่นไหว้ ได้แก่ ซาซือ ป่าปา และเหล้า และต้องมีหนุ่มสาวที่บริสุทธิ์ ความประพฤติดี จำนวน 4 คน ประกอบด้วย หญิงสาว 2 คน และชายหนุ่ม 2 คน เพราะเทพ “อิ๊ด่ามอ” เป็นเทพแห่งความบริสุทธิ์ (หนุ่มสาวที่ไปร่วมพิธี 2 คู่ เป็นตัวแทนในเครื่องเซ่นไหว้ประกอบพิธีกรรม) นอกจากนั้นก็จะมีบุคคลอื่นๆ ไปร่วมได้ เมื่อทำพิธีขอพรแล้วก็เต้นรำ ร้องเพลง จากนั้นจะมีการดำหัวผู้นำคนอื่นๆ ตามแต่ชาวบ้านจะเห็นสมควร และอยากทำพิธีดำหัว เช่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เป็นต้น พิธีสำคัญในงานปีใหม่จะมีเพียง 3 วันเท่านั้น นอกจากนั้นจะสามารถจัดงานรื่นเริง เต้นรำ ร้องเพลง ได้เรื่อยๆ ประมาณ 3-7 วัน หรือตามแต่คนในชุมชนอยากจะจัดและกำหนดเวลาไว้